เรียกสอบลุงพลคนดังโฆษณาชาเกินจริง
ปคบ.จ่อเรียก “ลุงพล” มาสอบ หลังโฆษณาขายชา อ้างสรรพคุณเกินจริง
ความคืบหน้ากรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้นำเอกสาร จากเพจเฟซบุ๊ก ที่มีการโพสต์ขายผลิตภัณฑ์ ชา ยี่ห้อหนึ่ง ที่มีนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้โด่งดังจากกรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่บ้านกกกอกเป็นพรีเซนเตอร์ โดยมีการโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว สามารถช่วยป้องกันโรคโควิด-19 รักษาโรคมะเร็งและลดไขมันได้ มายื่นแจ้งความเอาผิดกับลุงพล
โดยจะแจ้งความว่า กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร มาตรา40 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณ ของอาหารอันเป็นเท็จ และความผิดตามมาตรา41 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า โดยไม่ได้ขออนุญาต อย. และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าเนื้อหาอันเป็นเท็จ
โดย พลตำรวจตรีณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากได้รับการร้องเรียน เบื้องต้นได้ประสานกับทาง รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ให้เข้ามาตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ว่ามีข้อเท็จจริงประการใด และเข้าข่ายความผิดหรือไม่
โดย อย. จะไปทำการตรวจสอบว่าบริษัทที่ผลิตชา ได้มีการขออนุญาตจดทะเบียนจากทาง อย. ถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งพิจารณาข้อความที่มีการโฆษณาว่าโอ้อวดเกินจริงหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะทราบความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า และขั้นตอนหลังจากนั้น จะเป็นการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์ และตัวพรีเซนเตอร์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ผบก.ปคบ. ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นมีความคล้ายคลึงกับคดีของ กาละแมร์ ดาราพิธีกรชื่อดังที่เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ และอาจจะมีแนวทางการดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน
ในยุคที่การโฆษณานั้นเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก มีการผลิตสื่อ คอนเทนต์ที่น่าเชื่อถือและชวนติดตามมากมาย ประชาชนเองก็ต้องมีความชาญฉลาด รู้ทันสื่อ ไม่หลงตกเป็นเหยื่อข้อความหลอกลวงเอาได้ง่ายๆ ทีมงาน Joker8899 ก็จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และนำมาเล่าสู่กันฟังอย่างแน่นอน เพราะก็ถือเป็นเรื่องราวของคนดังอย่างลุงพลที่ทุกคนรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันเป็นอย่างดี
แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะเป็นช่วง “ขาลง” ของลุงพล เพราะพักหลังมานี้ มีแต่เรื่องไม่ดี เกิดขึ้นมากมาย ก็ได้แต่หวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้นในท้ายที่สุดนะลุงพล ทั้งนี้ คดีของน้องชมพู ก็คืบเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าใครจะมีส่วนในการตายของน้อง ก็ต้องว่ากันไปตามหลักฐานพยานที่จะมัดตัว และเพื่อที่ประชาชนจะได้หายข้องใจในประเด็นดังกล่าว และปิดคดีนี้ที่เป็นที่เลื่องลือได้เสียที
ลิงก์ข่าว