ในแต่ละยุคแต่ละสมัยก็จะมีสิ่งที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์หรือไอเท็มประจำยุคอยู่ ซึ่งเมื่อพูดถึงเจ้าสิ่งๆ นั้น ทุกๆ คนต่างร้องอ๋อ และรู้ได้ในทันทีว่ามาจากช่วงเวลาไหน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในช่วงเวลานั้นเองก็มักจะนึกถึงและรู้สึกคุ้นเคยได้เป็นอย่างดี ในวันนี้ Joker8899 จะขอกล่าวถึงเกมสมัยใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของเหล่าเด็กๆ ทั่วโลก ก็จะเป็นเกมอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากเกมมายน์คราฟต์ หรือ Minecraft นั่นเอง
Minecraft คืออะไร
ไมน์คราฟต์ หรือ มายคราฟ (Minecraft) คือ เกมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่เป็นเกมการออกแบบรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม มีลักษณะเป็นเกมแนว sandbox 3 มิติ เล่นได้บนคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบวินโดว์และแมคบุค โดยเป็นเกมแนวสร้างสรรค์ที่ให้ผู้เล่นใช้จินตนาการในการออกแบบรูปทรง 3 มิติได้อย่างอิสระ ออกแบบมาสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไปสามารถเล่นได้ ภายในเกมผู้เล่นสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากมาย โดยหลัก ๆ แล้วไมน์คราฟต์มี 2 เกมโหมด คือ โหมดเอาชีวิตรอด (Survival mode) ซึ่งผู้เล่นจะต้องเก็บเกี่ยวทรัพยากรด้วยตนเองเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ และต้องพยายามรักษาเลือดและความหิวเอาไว้ และอีกโหมดคือโหมดสร้างสรรค์ (Creative mode) ซึ่งให้ผู้เล่นเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างไม่จำกัด แต่ยังมีอีกหลายโหมดสำหรับเกมนี้ ได้แก่ โหมดฮาร์ดคอร์ , โหมดผจญภัย, โหมดผู้ชมและ โหมดหลายผู้เล่น (Multiplayer)
จุดเริ่มต้นของเกม Minecraft
เกมนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากผู้สร้างเกมชื่อ มาร์คุส แพร์ช็อน (Markus Persson) นักออกแบบเกมชาวสวีเดน และพัฒนาโดยโมแจงสตูดิโอส์ (Mojang Studios) โดยตัวเกมได้รับแรงบันดาลใจมากจากการสร้างเกม 3 มิติ แนว RPG เกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 โดยในภายหลังผู้สร้างเกมได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาเกมนี้โดยเฉพาะ และทำให้เกมรุ่นสมบูรณ์ถูกวางจำหน่ายในท้องตลาดเมื่อปี 2011 เกมไมน์คราฟต์ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมอย่างมากจนบริษัทไมโครซอฟต์เข้าซื้อลิขสิทธิ์ในเวลาต่อมา โดยมีมูลค่าถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
โหมดเกม Minecraft
การเล่นหลักๆ ของเกมนี้จะเกี่ยวกับการทำลายหรือจัดวางบล็อก โดยโลกของเกมประกอบไปด้วยวัตถุที่เป็น 3 มิติทรงลูกบาศก์ จัดเรียงเป็นแบบของตาราง โดยบล็อกเหล่านั้นจะแทนวัสดุต่างๆ เช่น ดิน หิน แร่ต่างๆ น้ำ ลาวา ต้นไม้ เป็นต้น ในขณะที่ผู้เล่นสามารถเคลื่อนที่ได้อิสระรอบๆ โลก แต่วัตถุต่างๆ จะสามารถวางไว้ในรูปแบบของตารางที่กำหนดไว้เท่านั้น และสามารถเก็บวัตถุเหล่านี้และวางมันในที่ที่ผู้เล่นต้องการได้ ซึ่งจะมีโหมดการเล่นในแบบต่างๆ ดังนี้
1.โหมดเอาชีวิตรอด
ในโหมดนี้ผู้เล่นจะต้องเก็บรวบรวมทรัพยากรธรรมชาติ (เช่น ไม้ หิน แร่) ที่พบตามที่ต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมเพื่อที่จะนำมาประกอบเป็นบล็อกหรือสิ่งของที่ต้องการ ทั้งนี้วัสดุแต่ละอย่างขึ้นอยู่กับความยาก คือมอนสเตอร์จะเกิดในที่มืดที่ห่างๆ จากผู้เล่น ฉะนั้นแล้วผู้เล่นควรที่จะสร้างที่พักสำหรับช่วงเวลากลางคืน และในโหมดนี้จะมีหลอดแสดงสถานะเลือดด้วย(HP Status) ซึ่งเลือกจะลดลงเมื่อได้รับอันตรายจากสิ่งต่างๆ เช่น ถูกโจมตีจากมอนสเตอร์ ตกจากที่สูง จมน้ำ ตกลงไปในลาวา หายใจไม่ออก ความหิว และกิจกรรมอื่นๆ โดยผู้เล่นก็จะมีหลอดความหิวด้วย ซึ่งจะสามารถเติมหลอดนี้ได้ด้วยการกินอาหารในเกม แต่ถ้าเล่นในโหมดย่อย “ปลอดภัย” (Peaceful) หลอดอาหารในความยากนี้จะไม่ลดลงเลย ถ้าหลอดอาหารไม่เต็มการเพิ่มเลือดจะถูกหยุดโดยอัตโนมัติและในที่สุดเลือดก็จะลดลงนั้นเอง เลือดจะเพิ่มได้ก็ต่อเมื่อหลอดอาอาหารเต็ม แต่ในโหมดความยาก “ปลอดภัย” เลือดจะเพิ่มขึ้นทันทีไม่ว่าหลอดอาหารจะเต็มหรือไม่
2.โหมดฮาร์ดคอร์
ในโหมดนี้การเล่นจะเหมือนกับโหมดเอาชีวิตรอดทุกอย่าง แต่จะมีความยากมากกว่า เพราะถ้าหากผู้เล่นตายแล้วจะไม่สามารถเกิดใหม่ได้และโ,กของเกมที่สร้างไว้จะถูกลบด้วย ถ้าผู้เล่นตายในเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นโหมดฮาร์ดคอร์ ผู้เล่นจะถูกแบน(Ban) จากเซิร์ฟเวอร์นั้นทันที เป็นอันสิ้นสุดเกมในโหมดนี้
3.โหมดสร้างสรรค์
ในโหมดสร้างสรรค์ ผู้เล่นจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรและของทุกอย่างในเกมผ่านช่องเก็บของได้อย่างไม่จำกัด และผู้เล่นสามารถหยิบของแล้วนำออกมาวางได้ทันที ผู้เล่นยังสามารถบินได้อย่างอิสระไปทั่ว โลก และจะไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ความเสียหายจากสิ่งต่างๆ รวมทั้งความหิวด้วย โหมดนี้จะช่วยให้ผู้เล่นมุ่งเน้นไปที่การสร้างสิ่งก่อสร้างและสร้างโครงการที่ใหญ่ๆ เช่น ตึกโครงสร้างขนาดใหญ่ได้นั้นเอง
แอดมิน Joker8899 ชอบโมหดนี้ที่สุด เพราะมีอิสระในการออกแบบสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่สิ้นสุด
4. โหมดผจญภัย
โหมดผจญภัยนี้ได้ถูกเพิ่มเข้ามาใน ไมน์คราฟต์ เวอร์ชัน 1.3 โดยได้รับการออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงที่จะให้ผู้เล่นได้ผจญภัยไปในโลกของผู้เล่นคนอื่นหรือเรียกว่า แมป(Map) ที่ได้สร้างเอาไว้โดยเฉพาะ การเล่นจะคล้ายกับโหมดเอาชีวิตรอด แต่ผู้เล่นจะมีข้อจำกัด ซึ่งข้อจำกัดนี้ก็แล้วแต่ผู้สร้างแมปจะกำหนดขึ้น ทั้งนี้เพื่อที่จะให้ผู้เล่นได้รับของที่จำเป็นและประสบการณ์ในการผจญภัยที่ผู้สร้างแมปต้องการ นอกจากนี้ในการออกแบบแมปจะมีการใช้บล็อกคำสั่ง (Command Block) บล็อกนี้จะทำให้ผู้สร้างแมปได้เพิ่มปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นผ่านทางคำสั่งต่างๆ ของบล็อกนี้
5.โหมดผู้ชม
ในโหมดผู้ชมจะทำให้ผู้เล่นสามารถบินไปได้รอบๆ ทะลุสิ่งต่างๆ ได้อย่างอิสระเพื่อเข้าดูผู้เล่นคนอื่นเล่นโดยที่ไม่มีผลกระทบต่อกัน(ดูคนอื่นเล่นเกม) โหมดนี้ตรงรายการฮอตบาร์ (Hotbar) จะสามารถทำให้ผู้เล่นเทเลพอร์ต(Teleport) ไปหาผู้เล่นคนอื่นได้ในทันที และสามารถมองในมุมมองของผู้เล่นคนอื่นหรือสิ่งมีชีวิตอื่นได้อีกด้วย บางทีมุมมองของสิ่งมีชีวิตอื่นอาจจะแตกต่างกับมุมมองของผู้เล่นก็ได้ จึงเป็นความนุกอีกรูปแบบหนึ่งของเกมนี้
6.โหมดหลายผู้เล่น (Multiplayer)
โหมดหลายผู้เล่นใน ไมน์คราฟต์ จะใช้ได้โดยผ่านผู้เล่นโฮสต์ (Host) และธุรกิจโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ และช่วยให้ผู้เล่นสามารถเล่นด้วยกันได้ในโลกเกมนั้น ผู้เล่นสามารถเปิดเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเองหรือใช้บริการผู้ให้บริการโฮสติง โดยผู้ที่เป็นโฮสต์สามารถควบคุมหรือตั้งเงื่อนไขต่างๆ ได้เอง ถ้าใครเป็นโฮสต์ก็อย่าลืมชวน แอดมิน Joker8899 เล่นด้วยคนนะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับสาระน่ารู้ที่ Joker8899 ได้นำมาเสนอกันในวันนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงพอจะเข้าใจว่าเกมไมน์คราต์นั้นมีลักษณะและแนวคิดพื้นฐานอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยมจากบรรดาแฟนๆ ทั่วโลกได้มากขนาดนี้ หวังว่าคุณผู้อ่านจะชื่นชอบและสนุกกับบทความนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม สืบค้นต่อได้ที่